หลังจากพัทยามาราธอนมีเวลาซ้อม 2 สัปดาห์ 3 วันแรกได้แต่ยืดกับจ็อกกิ้งเบาๆ 9-10-11 หยุดยาวออก ตจว.ปฎิบัติภารกิจ 12 กลับมาวิ่ง...ตามนั้น
วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
27 ก.ค.2557 เล่าเรื่องมาราธอนที่ 9 ณ พัทยามาราธอน
กำหนดการแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฏาคม 2557 เวลาปล่อยตัว 03.45 น.
เริ่ม จากการเดินทางวันเสาร์ที่ 26 กค.ในการตัดสินใจครั้งแรกก่อนหน้านั้นผมคิดว่าจะนั่งรถตู้ที่สี่แยกบางนา มุ่งหน้าพัทยา นั่งคิดนอนคิดหลายรอบสุดท้ายก็ตัดสินใจขับรถไปเองล้อหมุนประมาณ 11.00 น.ใช้เส้นทางลอยฟ้าบูรพาวิถีใช้ความ 100-120 กม.ต่อ ชม.ไม่เร็วไม่ช้า กับการใช้ความเร็วระดับหนึ่งบนถนนเส้นนี้ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าหลายๆ ครั้งที่เกิดอุบัติเหตุบนถนนเส้นนี้แต่ละครั้งมันค่อนข้างรุนแรงมากๆ ผมสัณนิฐานสาเหตุคร่าวๆ ได้ 2-3 ข้อ คือ 1.การใช้ความเร็วซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือรถบรรทุกขนาดใหญ่อย่างรถสิบล้อ รถพ่วงสิบแปดล้อใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-110 กม.ต่อ ชม.ซึ่งเร็วใกล้เคียงกับผม สำหรับรถใหญ่ผมว่ามันเร็วมาก 2.ความแรงของลมเห็นได้ชัดว่ารถเล็กๆ อย่างผมความเร็ว 120 กม.ต่อ ชม.นั้นรถจะเหินๆ เมื่อมีลมปะทะ การเร่งแซงด้วยความเร็วที่มากขึ้นโอกาสที่จะโดนลมดูดจากรถใหญ่ๆ ก็มากขึ้นตามไปอีก 3.พฤติกรรมคนขับ ถนนโล่ง ทางเรียบ มันเร้าใจ ยิ่งมีซุปเปอร์คาร์มาวิ่งแซงเป็นระยะๆ มันทำให้คึกสุด เส้นทางลอยฟ้าก็เข้าเส้นทางเลี่ยงเมืองชลบุรีมีบางช่วงกำลังซ่อมแซมปรับปรุง พื้นผิวถนนอยู่ พบเจออุบัติเหตุบ้างประปราย ถึงชายหาดพัทยาโดยสวัสดิภาพผมเลือกที่จะไปจอดรถที่ห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยาบีช ใช้เวลาเดินทางราวๆ ชม.ครึ่ง ทางเมืองพัทยาจัดสถานที่ลงทะเบียนไว้ที่ฝั่งตรงข้ามของเซ็นทรัลฯ ใช้เวลาในการลงทะเบียนอีกราวๆ ครึ่ง ชม.ก็เสร็จเรียบร้อย
สำหรับที่ พักนั้นทางชมรมได้จัดเตรียมไว้ให้ที่ซอย 5 ถนนเลียบชายหาด (ถ้าเดินจากเซ็นทรัลฯ ไปก็จะใช้เวลาราวๆ 15 นาที) ตอนแรกว่าจะทิ้งรถไว้ที่เซ็นทรัลฯ เนื่องจากเห็นประกาศจากทางเวบว่าทางผู้จัดงานได้เตรียมสถานที่ฝากรถไว้หลาย แห่งหนึ่งในนั้นคือเซ็นทรัลฯ โดยบอกว่าสามารถจอดได้ฟรี 24 ชม.ด้วยความไม่แน่ใจจึงได้สอบถามประชาสัมพันธ์ได้คำตอบว่าไม่อนุญาตให้จอด ค้างคืนแต่วันงาน (27 กค.) จะเปิดให้จอดเป็นกรณีพิเศษตั้งแต่ตีสามเป็นต้นไป เมื่อเป็นดังนั้นจึงย้ายไปจอดที่โรงแรมที่พัก สาเหตุที่ผมไม่อยากเอารถมาจอดที่โรงแรมเนื่องจากปีที่แล้วผมก็มาปีนั้นแขกมา พักค่อนข้างเยอะที่จอดรถไม่พอก็เลยออกไปจอดข้างกำแพงรั้วของโรงแรม(ด้านนอก) ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าผมไปจอดทับที่ใครเช้ามารถผมโดนครูดที่ซุ้มล้อและมี รอยข่วนที่ประตูด้านที่ชิดกำแพง (ถ้าโดนรถคันอื่นก็น่าจะโดนฝั่งที่เป็นถนน) โชคดีที่ปีนี้แขกมาพักน้อยจึงมีที่จอดว่างพอที่จะจอดได้ก่อนจะมาผม ได้เตรียมใจมาล่วงหน้าก่อนแล้วหลายวันคือพักผ่อนให้เต็มที่มาก่อนเพราะว่า ถ้าตั้งใจมาพักเอาที่นี่คงไม่มีทางเพราะในห้องผมต้องพักกับเพื่อนๆ ในชมรมอีกหลายคนเป็นอะไรที่หลับไม่สนิทแน่นอนและมันก็เป็นดังนั้น ชุดวิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นก็จัดเตรียมมาจากบ้านอยู่แล้วนอกจากชุดวิ่งแล้วก็มี ของกินระหว่างทางมีกล้วยหอม 4 ลูกกับเจเล่สูตรที่ผสมเกลือแร่ 3 ถุง ก่อนวิ่งกินมันเทศต้ม 1 หัว เจเล่ 1 ถุง กาแฟ(เซเว่น) 1 ซอง
เริ่ม ปล่อยตัว 03.45 พอดี วิ่งออกไปทางพัทยาเหนือแล้วออกไปถนนสุขุมวิทแล้วมุ่งหน้าไปทางสัตหีบ (ผ่านพัทยากลาง พัทยาใต้) มีจุดให้น้ำทุกๆ 2 กม. วิ่งไปตามสเต็ปที่คือซ้อมเฉลี่ย กม.ละ 6 นาที ผ่าน 10 กม.แรกเร็วไป 2 นาทีคิดว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็เลยวิ่งสเต็ปเดิม เลย กม.10 มาเจเล่ถุงแรกทำงานทะยอยกินครึ่งถุงก่อน กม.12 กินอีกครึ่งถุง กม.18 เจเล่ถุงที่สองทำงานทะยอยกินอีกเหมือนเดิมครึ่งถุงอีกครึ่งถุงกินก่อนถึงจุด ให้น้ำ กม.20 จุดนี้มีเกลือแร่ให้ด้วย ดูเวลาแล้วยังเร็วไป 1 นาที (1 ชม. 59 นาที) จุดกลับตัวอยู่ที่ กม.22 ถ้วน สังเกตุได้ว่าตั้งแต่ปล่อยตัวออกมานี่เหมือนจะวิ่งขึ้นเนินมาตลอดทางโดย เฉพาะช่วงถนนพัทยาเหนือออกมาปากทางถนนสุขุมวิทกับอีกช่วงคือ กม.ที่ 18 กึง กม.21 เป็นทางไต่เนินที่ไกลสุดลูกหูลูกตากินระยะทางหลายกิโล เลยจุดกลับตัวมาหน่อยกล้วยหอมลูกแรกเริ่มทำงานเนินนรกเริ่มส่งผลทำให้ขา เริ่มล้าพยามวิ่งให้ช้าลงรักษาจังหวะต่อให้ต่อเนื่อง ณ จุดนี้รู้เลยว่าถ้าจังหวะผิดแล้วตะคริวจะมาทันที ที่จุดให้น้ำ กม.24 มีแตงโม หยิบน้ำ 1 แก้วแตงโม 1 ชิ้น (เลือกเอาชิ้นใหญ่หน่อย) แล้วก็ไปต่อ (บางคนหยุดกินกันเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว) ยังมีกล้วยหอมตุนไว้อีก 3 ลูก กม.26 ความเร็วยังอยู่เพจ 6 กว่าน่าจะอยู่ที่ 6.2-6.3 (เพจ 6 = 6 กม.ต่อ ชม.) กะว่าจะดูนาฬิกาอีกทีที่ กม.30 และจะหยุดเดินซัก 100-200 เมตร ถึงตอนนี้(ตั้งแต่ กม.26 มา) พอถึงจุดให้น้ำจะหยุดเดินกินน้ำซัก 10 ก้าวแล้ววิ่งต่อเลย กม.28 กล้วยหอมลูกที่สองก็ทำงาน วิ่งจังหวะเดิมเรื่อยๆ ถึง กม.30 ปกติเมื่อปีก่อนๆ กม.ที่ 30 นี้จะอยู่ตรงซอยเข้าหาดจอมเทียนซอย 1 พอดีและจะต้องเลี้ยวเข้าซอยนี้ แต่ปีนี้มีการเปลี่ยนเส้นทางไม่เข้าซอยนี้แต่จะเลยไปเข้าซอย 2 แทนซึ่งเป็นซอยที่มีการตัดถนนใหม่ 4 เลนเป็นทางลัดที่ลัดไปได้หลายทางซึ่งห่างจากจุดเดิมไปอีก 2 กม.ดูนาฬิกาผ่านไป 3 ชม. 5 นาที ความเร็วตกไปถึง 6 นาทียังอยู่ในเพจ 6 นิดๆ ความที่ว่าจะหยุดเดิน 100-200 เมตรจึงต้องยืดไปอีก 2 กม.โดนปริยาย (รู้สึกว่ายังวิ่งต่อได้) ไปจนถึงทางแยกเป็น กม.32 พอดี จุดนี้มีเกลือแร่เป็นขวดๆ ผมไม่แน่ใจว่าน้องเค้าจงใจให้เป็นขวดๆ เลยหรือว่าเปิดขวดแล้วเทใส่แก้วไม่ทันผมก็เลยหยิบมาทั้งขวดแล้วอัดลงไปรวด เดียวแล้ววิ่งต่อเลยไม่ได้หยุดเดินเอาไว้หมดตรงไหนค่อยเดินละกัน เข้า 10 กม.สุดท้ายก็วิ่งไปบ่นไปคือเหมือนร้องเพลงไปตามจังหวะร้องในลำคอนะครับร้อง ใหัออกมาแต่เสียงลมรู้สึกดีครับเร่งความได้ช่วงสั้นๆ แล้วก็ผ่อนแล้วเร่งสลับกัน มีคนวิ่งแซงมาคุยด้วยเขาก็ไม่คุยด้วยก็ปล่อยเขาแซงไป (อีกหน่อยจะแซงคืน อิอิ) กล้วยลูกที่ 3 ทำงานที่ กม.34 เป็นจุดที่มาบรรจบกับกลุ่มฮาล์ฟ รู้สึกตกใจทำไมพวกฮาล์ฟยังเหลือเยอะ (ปีที่แล้วไม่เจอพวกฮาล์ฟเลย) แต่ก็ดีใจมีเพื่อนวิ่งอีกเยอะขึ้นแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรยังคงพึมพำไปเรื่อยๆ กม.ที่ 38 เริ่มเดินสั้นๆ สลับวิ่งยาวๆ ตะคริวเริ่มสะกิดขาและข้างหน้าจะมีเนินชันๆ อีก 2 เนินถ้าเป็นตะคริวตอนนี้คงจบ จึงงัดเอากล้วยหอมลูกสุดท้ายออกมาทำงาน แล้วประคองตัวไปเรื่อยๆ เริ่มขึ้นเนินเขาพระใหญ่เนินแรก กม.ที่ 40 วิ่งสลับเดินเท่าๆ กัน ขาลงเนินแรกทำความเร็วได้มากแต่ก็ไม่สุดเนินตะคริวขึ้นที่นิ้วเท้าเสียก่อน (เพราะว่าตอนวิ่งลงเนินต้องใช้แรงจิกขาลงมากกว่าปรกติ) ก็เลยหยุดวิ่งแล้วเดินไประยะสั้นๆ สลับวิ่งช้าๆ เหมือนเดิม ขึ้นเนินที่ 2 กม.ที่ 41 พอดีแหมเนินนี้ดีที่มันเป็นเนินเตี้ยแต่ชันมากต้องวิ่งช้าๆ ขึ้นให้สุดแล้วเดินลงไปบรรจบกับทางที่จะไปแหลมมาลีฮายแล้ววิ่งเข้าวอร์คกิ้ง สตรีทพัทยาใต้ออกมาหาดพัทยามองเห็นเซ็นทรัลฯ อยู่ลางๆ เฮ้…..ผมมาแล้ว ยังวิ่งได้เรื่อยๆ วิ่งไปเก๊กท่าถ่ายรูปไป ช่างภาพค่อนข้างเยอะรู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง กระทั่งถึงเส้นชัยด้วยเวลา 4 ชม. 40 นาที แต่เมื่อกดดูระยะทางปรากฏว่าได้ระยะทาง 44.2 กม.เกินมา 2 กม.พอดิบพอดี แต่ถ้าวัดเฉลี่ยที่ระยะ 42.195 กม.เวลาจะตกอยู่ที่ประมาณ 4 ชม. 30 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่ตั้งเอาไว้ สรุปได้ว่าการวิ่งครั้งนี้เป็นไปตามแผนทุกประการไม่ได้เกินเป้าหมายที่วาง เอาไว้ ถึงแม้มันจะไม่ดีนักแต่มันก็ไม่ได้แย่ แต่มันมีอะไรที่ทำให้เราเห็นว่าอะไรที่ควรต้องแก้ไขในการวิ่งคราวต่อไป พบกันใหม่ กรุงเทพมาราธอนรับเหรียญ รับเสื้อ Finisher แล้วก็กลับบ้านครับ
อาจจะมีรายการแทรกก่อนถึงกรุงเทพมาราธอนนะครับยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงรายการไหน
ขอขอบคุณภาพจากพี่ชาย ฟอร์รัน (forrunnersmag.com)
กาย บูรพาไม่แพ้
30 กรกฏาคม 2557
fb:/clubsmilefoto, fb fanpage : /smilerunningclub
webblog : thairunningtv.blogger.com, clubsmilefoto.wordpress.com, clubsmilefoto.bloggang.com
วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)