ไปร่วมงานวิ่งเขาชะโงกซุปเปอร์ฮาล์ฟระยะ 32K ครั้งที่ 20 ครั้งนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน การไปร่วมงานครั้งนี้มีปัญหาและอุปสรรคมากมายตั้งแต่ออกเดินทาง โดยตั้งใจออกจากบ้านเร็วเพราะต้องเลยไปดูเหยี่ยวดำที่ อ.ปากพลี นครนายก ก่อนจะย้อนกลับมาที่โรงเรียนนายร้อย จปร. แต่ยังไม่ทันถึงปากพลีก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อนในตัวเมืองนครนายกขณะที่จอดรอรถคันหน้าออกจู่ๆ ก็มีรถกระบะคันใหญ่พุ่งมาชนท้ายอย่างจังทำให้รถไถลไปชนท้ายรถคันหน้าอีกทีและรถคันหน้าก็ไถลไปชนรถคันหน้าอีกรวม 4 คัน รถผมถูกอัดก็อปปี้ทั้งหน้าและหลัง ด้านหน้ากันชนยุบมาถึงหม้อน้ำจนน้ำจากหม้อน้ำไหลออกมาไม่ทราบว่าแตกหรือรั่วหรือไม่ต้องให้ช่างเช็คอีกที ด้านหลังฝาท้ายยุบไฟด้านขวาแตกละเอียด รถขับต่อไปไม่ได้ รอประกันมาเคลียร์ซักพัก รถกระบะยอมรับว่าเบรคไม่ทันจึงไม่ต้องสอบสวนอะไรเพิ่มเติม ซึ่งจะต้องชดใช้ค่าซ่อมให้กับรถทุกคันที่เสียหาย รถผมจะต้องลากเข้า กทม.โดยทางประกันดูแลการลากและประสานงานกับทางอู่ที่ กทม.ให้ (อันนี้รู้ว่าเขาซัมติงกันกับอู่) รถให้ลากไปไว้ที่อู่ก่อนวันจันทร์ที่ 3 พ.ย.ค่อยไปทำเรื่องเคลมเพื่อทำการซ่อมอีกครั้ง ส่วนตัวผมต้องเดินทางต่อไปเขาชะโงก (ยกเลิกการเดินทางไปปากพลีโดยปริยาย)
เคลียร์เรื่องอุบัติเหตุเรียบร้อยก็ได้วานให้คนรู้จักที่มาวิ่งเหมือนกันแวะมารับ ณ จุดที่รถถูกชนและก็เข้าไปโรงเรียนนายร้อย จปร.ด้วยกัน เรามาพักที่นี่โดยการกางเต๊นท์ที่อาคารสระว่ายน้ำที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ ก็สะดวกสบายดี แต่ก็มีปัญหาคือปีนี้อากาศยังร้อนอยู่ซึ่งต่างจากปีที่แล้วในเดือนเดียวกันนี้อากาศจะหนาวแล้ว จากที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวกลับกลายเป็นว่าจู่ๆ ฝนก็ตกลงมาทำให้ต้องย้ายเต็นท์เข้าร่มกันเป็นพัลวันคืนนั้นนอนหลับไม่ค่อยเต็มที่แต่ก็พอได้นอนอยู่บ้างตื่นมาไม่งัวเงีย
มาถึงเรื่องวิ่ง ปล่อยตีห้าตรง ณ จุดเดิมและไปเส้นทางเดิมทางเรียบ 2 กม.แรก สิ้นสุด 2 กม.ก็ขึ้นเขาลูกแรกเลยชันมากและยาวมากประมาณจากสายตาบางช่วงชันถึง 60-70 องศาระยะทางขึ้นเขาลงเขาก็ราวๆ 1 กม.เศษๆ เล่นซะขาอ่อนกันไปเลยเส้นทางวันนี้ดีกว่าเมื่อปีที่แล้วที่ถนนมีการปรับปรุงใหม่บางช่วงลาดยางใหม่มีขรุขระบ้างเล็กน้อยในบางจุดโดยรวมแล้วดีมาก วิ่งทางเรียบไต่เนินลงเนินมาถึง กม.13 จะต้องข้ามเขาอีกครั้งจุดนี้สั้นๆ แต่ชันมากทำเอาเสียพลังงานไปค่อนข้างมาก จากนั้นก็วิ่งทางเรียบมาตลอดจนกลับตัวที่ กม.20 วกเข้าอ่างเก็บน้ำจุดนี้ กม.23 เริ่มไต่เนินอีกเนินไม่ชันแต่ไต่ขึ้นเรื่อยยาวมากราวซัก 2 กม.ได้แต่พอตอนลงเนินนี่แบบลงแนวดิ่งเลย จากนี้ที่เหลือก็เป็นทางราบอย่างเดียวจนถึงเส้นชัย เวลาที่จุดฟินิชบอกว่า 3:12:05
เป็นเวลาที่ไม่เกินเป้าแต่สิ่งที่ดีกว่าคือวันนี้เข้าเส้นชัยก่อนหมอเฟิร์นแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ณ จุดกลับตัวหลังจากผ่านจุดกลับตัวมาได้ราวๆ ครึ่งๆ กม.เห็นหมอเฟิร์นกำลังมา (เดิมที่ก็ไม่รู้ว่าหมอเฟิร์นมาวิ่ง) รวมๆ แล้วทิ้งห่างอยู่ราวๆ ก็ 1 กม.ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมาได้จนเกือบจะทันทั้งที่ผมเองนั้นก็ไม่ได้ผ่อนเลยมีเดินกินน้ำบ้างระยะสั้น 5-10 เมตรแล้ววิ่งต่อ ถ้าเป็น 42K คงโดนแซงแล้วก็โดนทิ้งเหมือนที่พัทยาแน่ๆ ทำให้รู้สึกเสียวๆ ว่ากรุงเทพมาราธอนจะแพ้หมอเฟิร์นหรือเปล่า ตอนนี้มีคู่แข่งสองท่านที่ผมจะยอมแพ้ไม่ได้ในกรุงเทพมาราธอนคือ ดร.นาวิน (ข่าวว่าซ้อมมาดีมาก) และหมอเฟิร์นนี่แหละ (ความจริง ดร.กับหมอเฟิร์นเขาไม่รู้หรอกว่าผมจัดเขาไว้ในลิสท์คู่แข่งและความจริงไม่ได้รู้จักกันทางพฤตินัย เพียงแต่ผลจากการวิ่งหลายๆ ปีที่ผ่าน (ระยะมาราธอน) เรา (หมายถึงผม ดร.และหมอเฟิร์น) จะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่เป็นประจำ ก็เท่านั้นเองครับ
ขอขอบคุณภาพจาก คุณนรสิงห์
ขอขอบคุณเฮียไหม สนามเทพและซ้อที่ไปรับที่นครนายกและมาส่งตอนกลับ
2 พฤศจิกายน 2557
กาย บูรพาไม่แพ้
สภาพรถ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น