วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

19 ก.ค. 2558 เล่าเรื่องวิ่งพัทยามาราธอน(อีกครั้ง)


พัทยามาราธอนปีนี้ (2558) ได้มาร่วมวิ่งระยะเต็มเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันเสน่ห์ของพัทยามาราธอนไม่ได้อยู่ที่กระบวนการหรือขั้นตอนการจัดงานแต่มันกลับไปอยู่ที่เส้นทางการแข่งขันต่างหาก จริงอยู่ตามที่เราๆ ได้รู้ๆ กันว่าระบบการจัดการการเตรียมงานนั้นมีปัญหาตลอดมาตั้งแต่การประกาศวันจัดการแข่งขัน วันเริ่มรับสมัครที่กระชั้นชิด วันลงทะเบียน การให้เงินรางวัล และอีกมากมาย แต่ผู้จัดก็พยายามปรับปรุงนะผมว่าพยายามตอบคำถามอธิบายข้อสงสัยต่างๆ ผู้ร่วมแข่งขันต่างก็ได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป ส่วนผมถือว่าไม่เป็นไรเห็นความพยายามแล้วผมก็รู้สึกโอเคถึงแม้บางอย่างจะทำให้ผมลำบากอยู่บ้าง เช่น ต้องขับรถจากกรุงเทพฯ ไปสมัครที่เมืองพัทยาก่อนกำหนดขึ้นราคาแต่หลังจากเลยกำหนดแล้วยังมีการเปิดรับสมัครราคาเดิมที่งานวิ่งงานหนึ่งในกรุงเทพฯ เป็นต้น (ไป-กลับ 200 กว่า กม.นะ) แต่ก็ไม่เป็นไรวันนั้นมีเพื่อนๆ ฝากไปสมัครด้วยหลายคนก็ไม่ได้ทำให้เสียเวลาวันหยุดไปมากมายนักเอาเป็นว่าหยวนๆ

วันออกเดินทาง (18 ก.ค.) ค่อนข้างสะดวกแต่ไม่สบายเพราะขับรถไปเอง สะดวกที่เป็นรถส่วนตัวแต่ไม่สบายที่ต้องขับไกลๆ อาศัยว่านอนเต็มที่ก็เลยไม่รู้สึกเหนื่อย เลือกเส้นทางไปที่ไม่เสียตังค์คือถนนบางนา-ตราด (ใต้ด่วนบูรพาวิถี) เพราะรู้ว่าถนนด้านล่างทำใหม่เสร็จเกือบตลอดเส้นทางแล้วไปได้เรื่อยๆ เหมาะกับคนขับรถไม่เร็ว สุดถนนบางนา-ตราดก็ออกเส้นบายพาสชลบุรีตรงสู่พัทยาเลยจนถึงที่พักพัทยาสายสอง ซ.11-12 เช็คอินเรียบร้อยรอเพื่อนๆ มาครบก็ออกไปเตร็ดเตร่สถานที่จัดงานเดินไปเดินมาก็เสียตังค์อีกจนได้ก็หลายบาทอยู่ รู้สึกสบายใจแล้วก็กลับที่พักแวะซื้อข้าวรถเข็น 1 กล่องกับขนมเซเว่นอีกเล็กน้อยเป็นเสบียง


คืนก่อนแข่งตั้งใจเข้านอนเร็วราวๆ 2 ทุ่มก็เข้านอนทั้งที่เพื่อนๆ ยังไม่กลับมาเลย แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับอาจจะเพราะอะไรหลายๆ อย่าง เช่น สถานที่ เสียงจากข้างนอก เสียงแอร์(ดังมากจนไม่ได้ยินเสียงฝนตก) หลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีสองครึ่ง แต่ตีสองก็ตื่นมาอาบน้ำแล้ว (กลัวหลับต่อแล้วเลย) ชะโงกหน้าออกมาดูรถที่จอดไว้ริมถนนสายสองหน้าโรงแรมตกใจรถฝั่งนี้มันหายไปหมดเลยหายไปอยู่อีกฝั่งของถนนคงจะโดนเทศกิจเมืองพัทยาลากไปเนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางแข่งขันด้วย

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกไปที่เซ็นทรัลบีชถาม รปภ.ว่าเอารถมาจอดได้หรือยัง รปภ.บอกว่าเอาเข้ามาจอดได้เลยก็เลยจ็อกกลับไปอีกรอบย้ายรถเข้ามาจอดในเซ็นทรัลน่าจะปลอดภัยกว่า เสร็จสรรพเรียบร้อยก็เป็นเวลาตีสามพอดีเหลืออีกครึ่งชั่วโมงก็จะปล่อยตัวนักวิ่งมาราธอนมีเวลาเหลือพอที่จะยืดเหยียดกินกาแฟ อัดช็อคโกแล็ตให้อยู่ได้ 10 กม.แรก คำนวณไว้ล่วงหน้าแล้วว่ามีเพาเวอร์เจล 4 ซองจะกินซองแรกที่ 10 กม. ซองที่สอง 20 กม. ซองที่สาม 30 กม. ซองสุดท้ายก่อน 40 กม.

ปล่อยตัวเวลาตีสามครึ่งพอดีปีนี้มีเปลี่ยนเส้นทางนิดหน่อยจากเดิมปีที่แล้วออกจากจุดสตาร์ทหน้าเซ็นทรัลพัทยาบีชไปพัทยาเหนือแล้ววิ่งตรงไปออกสุขุมวิทเปลี่ยนมาเป็นแทนที่จะวิ่งตรงตามถนนพัทยาเหนือก็มาเลี้ยวเข้าพัทยาสายสองตรงวงเวียนปลาโลมาแล้ววิ่งยาวมาออกพัทยาใต้จากนั้นถึงจะออกถนนสุขุมวิทตรงถนนพัทยาใต้นี่เอง สาเหตุที่เปลี่ยนเนื่องจากบริเวณแยกพัทยากลางมีการก่อสร้างอุโมงค์ข้ามแยกไม่สะดวกที่วิ่งผ่านก็เลยเลี่ยงมาใช้พัทยาสายสองแทน จากนั้นก็วิ่งไปตามเดิม

สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในปีนี้คือการมี Pacer วิ่งนำมีตั้งแต่ 4 ชม. 4 ชม.ครึ่ง 5 ชม. 5 ชม.ครึ่งและ 6 ชม. อันตัวผมนั้นเดิมทีตั้งใจจะวิ่งตำกว่า 4 ชม.ก็เลยเกาะตาม Pacer 4 ชม.ไปเรื่อยๆ เกาะไปได้สักพักรู้สึกว่า Pacer วิ่งเร็วไปมั๊ยตามได้ 6 กม.รู้สึกว่าวิ่งขึ้นเนินมาตลอดจนมาถึงถนนสุขุมวิทตามมาได้ซัก 8 กม.ก็เริ่มปล่อยให้ Pacer ล่วงหน้าไปก่อนอาศัยตามไปห่างๆ บนถนนสุขุมวิทมองไปข้างหน้าไฟส่องทางมันเรียงรายอยู่บนฟ้าโน้นมันต้องวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ แบบไม่มีลงเลยจะมีบ้างก็ระยะสั้นๆ แล้วก็ขึ้นอีกยาวๆ คิดได้เช่นนี้ก็สายเกินไปเสียแล้วหลงวิ่งตาม Pacer จนหมดแรงเองความจริงมันต้องค่อยๆ ไปขากลับค่อยอัดทางลงอย่างเดียว

ในเมื่อหมดตั้งแต่ขาไปขากลับมันก็เร่งไม่ขึ้นแล้วครับที่ทำได้คือเคาะมาเรื่อยๆ แบบไม่ช้าไม่เร็วแอบเดินกินน้ำกินแตงโมบ้างพักแรงเอาไว้ขึ้นสองเนินสุดท้ายเคาะมาถึง กม.30 เวลาอยู่ที่ 3 ชม.แอบตกใจเล็กน้อยเวลายังดีอยู่ไม่ขี้เหร่นักที่เหลือ 12 กม.นี่จะเอายังไงมันเร่งไม่ขึ้นแล้วถ้าเคาะไปเรื่อยๆ แบบนี้โอกาสหลุดก็มากอยู่ Pacer ก็ห่างไปจนลับตาแล้ว สุดทนแล้วก็ต้องทำใจปีนี้ทำไม่ได้ก็คือไม่ได้พลาดที่เราเองวางแผนไม่ดี 8 กม.สุดท้ายก็ปล่อยไหลไปตามสภาพจนถึงเส้นชัยด้วยเวลา 4 ชม. 21 นาที ช้ากว่าที่ตั้งใจไว้ 20 นาที....มันไม่น้อยเลย


ต้องบอกตามตรงว่าผิดหวังกับเวลาที่ได้แต่ก็ไม่ได้หมดหวังเพราะรู้ดีสนามนี้ทำเวลาค่อนข้างยากถึงจะทำไม่ได้ตามที่ตั้งใจแต่อย่างน้อยก็ดีกว่าปีที่แล้วตั้ง 20 นาทีปีหน้าจะทำให้ดีขึ้นอีก 20 นาทีมันคงไม่ยากแล้ว (มั๊ง) จบมาอย่างสะบักสะบอมเล็กน้อยมีอาการกล้ามเนื่อเกร็งบ้างบางจังหวะแต่ไม่ถึงกับเป็นตะคริวหลังจากวิ่งเสร็จได้ลงแช่น้ำทะเลบ้างราวๆ 10 นาทีแต่คลื่นแรงต้องรีบขึ้นกลัวเป็นตะคริว ไม่มีบาดเจ็บเพิ่มนอกจากกล้ามเนื้ออักเสบมาก่อนนี้แล้วส่วนหนึ่งซัพพอร์ตเตอร์ทำงานได้ดีก็แปลว่าที่ซื้อมาใช้นั้นมันได้ผลไม่ได้เสียเงินเปล่าปัญหาอย่างเดียวตอนนี้คือรองเท้ารุ่นนี้ Asic Tarther Japan คู่นี้ดูไม่เหมาะยังสู้ Asic Gel HyperSpeed 6 ไม่ได้ทั้งเบาทั้งกระชับกว่า


สุดท้ายก่อนกลับแวะกินข้าวร้านเดิมชื่อร้านจำไม่ได้ครับ ออกจากพัทยาเหนือเลี้ยวซ้ายมาราวๆ 500 เมตรก่อนถึงปั๊มเชลล์ (อยู่ติดกับปั๊ม) อร่อยเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนลูกค้าน้อยลงนะ




ขอขอบคุณภาพจาก Shutterrunning.com (พี่ตุ้ม พี่แจ๊ค พี่หน่อง), เคสปอร์ตรันนิ่ง (คุณแก๊ป)
กาย บูรพาไม่แพ้
21 กรกฎาคม 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น